อาเสี่ยอสังหาฯ ร้องถูกโจรงัดแงะ ลิฟต์หาย 2 ตัว เครื่องปรับอากาศตัวใหญ่ 2 ตัว องค์ประกอบกระจกก็ขนไป ชูอาคารได้คงจะทำไปแล้ว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 เดือนตุลาคม นักข่าวเดินทางไปเจอผู้เสียหายจุดเกิดเหตุเป็นตึกการค้า เศรษฐศาสตร์ ปลูกชิดกัน 2 คูหา สูง 5 ชั้น ตั้งอยู่ริมทางสาย 363 แถว 4 แยกเนินสำลี ต.มาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดระยอง

เมื่อเดินทางไปถึง เจอรอบๆพื้นหน้าตึกมีกระจกแตกเกลื่อนกลาดไปหมด รอบๆฝ้าที่ติดแอร์ไว้เหลือเป็นช่องว่างๆจุดที่จัดตั้งลิฟต์ถูกฆาตกรถอดเอาลิฟต์ไปเหลือเป็นหลักพื้นที่ว่างเป็นช่องสี่เหลี่ยม

นายเนตรยอดเยี่ยม ประเสริฐธนรัต อายุ 54 ปี ผู้ครอบครองอาคารได้พานักข่าวเดินมองร่องรอยความเสื่อมโทรมรวมทั้งให้ข้อมูลว่า ก่อนจะมาพบว่าเงินทองหายไป ตัวเองเดินทางไปชนบทมา โดยไปๆมาๆ 7 วัน พอเพียงวันที่ 18 เดือนตุลาคม กลับมาจังหวัดระยอง และก็ในเวลาเช้าของวันที่ 18 เดือนตุลาคมได้เข้ามาที่ตึกพานิชย์จุดเกิดเหตุก็เลยพบว่าทรัพสินต่างๆมีลิฟต์ 2 ตัว เครื่องปรับอากาศติดฝ้าเพดานตัวใหญ่ 2 ตัว ส่วนประกอบกระจกอลูมินัม ส่วนประกอบระบบกระแสไฟฟ้า ถูกผู้ร้ายรื้อถอนขนไปจนกระทั่งหมด โดยค่าความย่ำแย่ร่วม 2 ล้านบาท

ถัดมา ตอนเช้าวันที่ 21 ต.ค. ก็เลยเดินทางไปฟ้องร้องไว้ที่ สภ.มาบตาพุด แต่ว่าจนกระทั่งวันนี้ ยังปราศจากความรุดหน้าใดๆก็ตามจากทางตำรวจ

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น คงไม่ใช่มิจฉาชีพปกติทั่วๆไป จำต้องและกำลังคน พร้อมด้วยอุปกรณ์รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจหัวข้อการถอดลิฟต์ถอดเครื่องปรับอากาศอย่างดีเยี่ยม ถึงสามารถก่อเหตุได้และก็หนีไปอย่างลอยนวล

นายเนตรประเสริฐ ยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เวลานี้คนเฝ้าอาคารได้ล่องหนไป เป็นผู้ที่น่าสงสัยที่สุดซึ่งจะผสานข้อมูลกับทางผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ให้ติดตามตัวมาไต่สวนว่ามีส่วนทราบเหตุการณ์กับเหตุคราวนี้ไหม

พื้นฐานผู้รายงานข่าวได้ไต่ถามไปยัง พันตำรวจเอกดวงอาทิตย์ ไพจิตต์ ผู้กำกับการสภ.มาบตาพุด จังหวัด จังหวัดระยอง ได้แจกแจงในประเด็นนี้ผ่านโทรศัพท์ว่าทางตำรวจมิได้นิ่งเฉยซึ่งในช่วงเวลานี้รู้ตัวกรุ๊ปผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุแล้วโดยชุดสอบปากคำกำลังรีบติดตามเพื่อนำเพศผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี